วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557

5 สุดยอดอาหารสุขภาพ สำหรับเทศกาลกินเจ

5 สุดยอดอาหารสุขภาพ สำหรับเทศกาลกินเจ



    5 อาหารที่ช่วงไม่ควรพลาดช่วงเทศกาลกินเจ นอกจากจะทำให้การกินเจราบรื่นแล้ว ยังช่วยทำให้ได้สารอาหารครบถ้วนอีกด้วย

              ในช่วงเทศกาลกินเจมีอาหารหลายชนิดที่เป็นอาหารต้องห้ามและควรหลีกเลี่ยง ที่สำคัญก็คือเนื้อสัตว์ และบรรดาอาหารที่มีกลิ่นแรง แต่หลายคนที่ยังเป็นมือใหม่ในการกินเจ อาจจะยังไม่รู้ว่าอาหารชนิดใดบ้างที่เราสามารถทานได้และดีต่อสุขภาพ วันนี้จึงได้นำเอาตัวอย่างอาหารที่สามารถรับประทานได้ในช่วงเทศกาลกิน


    1. เต้าหู้

              เต้าหู้เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพและเหมาะกับเทศกาลกินเจอย่างมาก เพราะเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน สังกะสี ธาตุเหล็ก แถมยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่คอเลสเตอรอลน้อย 

              เต้าหู้ธรรมดาเพียงครึ่งถ้วยก็ให้แคลเซียมได้ถึง 100 มิลลิกรัม และในเต้าหู้ที่อุดมไปด้วยแคลเซียมนั้นสามารถให้แคลเซียมได้มากถึง 350 มิลลิกรัม ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน แถมยังทำให้ได้รับวิตามินดีสูงถึง 30% ของวิตามินดีที่ควรได้รับในแต่ละวัน ซึ่งจะช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมและนำไปใช้และเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง แต่ก็ไม่ใช่แค่ในเต้าหู้เท่านั้นที่จะมีสารอาหารสูงขนาดนี้ ในนมถั่วเหลืองก็เป็นแหล่งของสารอาหารที่สูงพอ ๆ กับเต้าหู้เช่นกัน


    2. ถั่ว 

              การรับประทานถั่วอย่างน้อย 1 ถ้วยต่อวันจะทำให้ได้ธาตุเหล็กและโปรตีน 1 ใน 3 ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน และยังได้ไฟเบอร์เกือบกึ่งหนึ่งของปริมาณที่ควรได้รับต่อวันอีกด้วย ทั้งนี้สารอาหารที่อยู่ในถั่วส่วนใหญ่เป็นไฟเบอร์ที่สามารถละลายน้ำได้ ซึ่งสามารถลดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ นอกเหนือจากนี้ถั่วเพียง 1 ถ้วยยังมีสารอาหารอย่างโพแทสเซียม สังกะสี วิตามินบี และแคลเซียมจำนวนมากอีกด้วย


     3. ถั่วเปลือกแข็ง
              ถั่วเปลือกแข็งที่เป็นแหล่งอุดมไปด้วยโปรตีนที่เรารู้จักกันดีก็ได้แก่ ถั่ววอลนัท ถั่วลิสง ถั่วอัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วพีแคน แมคคาเดเมีย และถั่วบราซิล ซึ่งถั่วเหล่านี้มีสังกะสี วิตามินอี และกรดไขมันโอเมก้า 3 อยู่มาก ตัวอย่างเช่น ถั่วอัลมอนด์เพียงครึ่งถ้วยก็มีแคลเซียมถึง 175 มิลลิกรัม ถึงแม้ว่าจะมีการศึกษาบ่งชี้ว่าถั่วมีแคลอรี่สูง แต่เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วก็ไม่มีผลทำให้น้ำหนักขึ้นแต่อย่างใด ซึ่งผู้เชี่ยวชาญก็สันนิษฐานว่า อาจเป็นไปได้ว่าเมื่อเรากินถั่วเข้าไปแล้ว จะทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็ว ส่งผลให้เราทานอาหารอื่น ๆ ได้น้อยลงนั่นเอง



    4. ธัญพืช
              เราจำเป็นที่จะต้องบริโภคไข่หรือนมจำนวนมากเพื่อให้ได้รับวิตามินบี 12 เพียงพอ แต่ในเมื่อเรากินเจจะทานอาหารเหล่านี้ได้อย่างไรล่ะ งั้นก็ต้องพึ่งธัญพืชแล้วค่ะ เพราะธัญพืชบางชนิดกลับอุดมไปด้วยวิตามินบี 12 ในปริมาณที่เทียบเท่ากับปริมาณที่ต้องการในแต่ละวันซึ่งเป็นไปได้ยากมากสำหรับอาหารชนิดอื่น ๆ และยังมีปริมาณธาตุเหล็ก แคลเซียม และอื่น ๆ สูง นอกจากนี้ยังมีไฟเบอร์ที่ไม่ละลายน้ำ ซึ่งจะช่วยลดคอเลสเตอรอลในร่างกายแถมยังช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้และโรคในทางเดินอาหารอื่น ๆ อีกด้วย


    5. ผักใบเขียว

              ผักใบเขียวที่มีสีเขียวเข้มอย่างเช่น ผักโขม บรอกโคลี และผักคะน้านั้นมีปริมาณของธาตุเหล็กสูง โดยเฉพาะผักโขมที่มีปริมาณถึง 6 กรัมซึ่งนับเป็น 1 ใน 3 ของปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน ผักใบเขียวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อการต้านเชื้อมะเร็ง แถมยังมีปริมาณกรดโฟลิก วิตามินเอ และแคลเซียม แต่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบที่ร่างกายสามารดูดซึมได้ในทันที ดังนั้นเมื่อนำผักใบเขียวไปปรุงเป็นอาหารให้บีบน้ำมะนาวหรือใส่น้ำส้มสายชูลงไปเล็กน้อย เพื่อทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมแคลเซียมได้




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น